1. แบบชดใช้ตามวินาศภัยที่แท้จริง
ก็คือเป็นการกำหนดจำนวนเงินเอาประกันโดยคิดจากมูลค่าที่ซื้อสินค้าไปตอนใหม่ๆหักด้วยค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งาน เช่น ของที่ซื้อมา 5 ปีที่แล้วนำมาประกันภัยมันก็ต้องวงเงินถูกลง ก็เหมือนซื้อของมือสอง นั่นแหละเอาง่ายๆ
2. แบบชดใช้เป็นจำนวนเงินที่แน่นอน
ผู้เอาประกันภัยเลือกกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ตนต้องการสำหรับวัตถุที่จะเอาประกันภัยแต่ละชิ้น การกำหนดลักษณะแบบนี้มักจะใช้กับ การประกันชีวิต , วัตถุที่เอาประกันภัยที่มีมูลค่าประเมินไม่ได้เช่น ภาพวาด ภาพเขียน ศิลปวัตถุ , การประกันภัยทางทะเลหรือการขนส่งสินค้า
3. แบบมูลค่าทดแทน
สำหรับทรัพย์สินหรือวัตถุที่จะเอาประกันบางอย่างจะไม่หักค่าเสื่อมราคาใดๆ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะว่ามูลค่าทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจะต้องมีการปรับทุนประกันภัยให้เท่ากับมูลค่าทดแทน เพราะหากไม่มีการปรับทุนประกันภัยจะทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย(under insurance) การกำหนดแบบนี้มักใช้กับ เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น