วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ถูกหลอกซื้อขายประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์ (โดนหักเงินทางบัตรเครดิต)

     ที่ผ่านมา คปภ. ได้รับการร้องเรียนทาง สายด่วนประกันภัย  1186 จากประชาชนจำนวนมาก ซึ่งมีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ซื้อประกันภัยและประกันชีวิตทางโทรศัพท์ (ทำให้คนอื่นว่าเป็นแมงสาบก็เพราะทำตัวกันแบบนี้แหละคนที่ตั้งใจทำงานก็พลอยเดือดร้อนไปด้วยกลายเป็นดูคำว่าประกันภัยคือหลอกลวงตกต่ำ..น่าสงสารนะครับกับคนตั้งใจทำงาน) มาต่อกันดีกว่า

สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถเคลมค่าสินไหมได้ตามที่เสนอให้กับผู้ซื้อประกันทางโทรศัพท์ได้

     ผู้ที่ได้รับการเสนอขายประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์ จะเป็นผู้มีบัตรเครดิต ซึ่งได้ข้อมูลลูกค้าจากบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิต แล้วจะมีกลุ่มคนที่พูดจาเหมือนเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ ไปเชิญชวนให้ซื้อประกัน ที่นิยมมาก คือการขายประกันอุบัติเหตุ

ทั้งนี้บุคคลที่ถูกหลอกจะได้รับการหว่านล้อมว่าการซื้อประกันผ่านโทรศัพท์เนี่ยนะจะทำให้เบี้ยประกันจะต่ำ เฉลี่ยเดือนละ 100ถึง200 บาทเท่านั้น และได้รับวงเงินความคุ้มครองสูง  1ถึง5 แสนบาทเลยทีเดียว

การป้องกันภัยดังกล่าวให้ทำดังต่อไปนี้
     เมื่อมีคนติดต่อมาขายประกันทางโทรศัพท์ ให้สอบถามชื่อ นามสกุล และเลขที่ ใบอนุญาตการเป็นนายหน้าขาย ประกัน และถ้าตัดสินใจไปแล้วไม่พอใจสามารถยกเลิกได้ภายใน  15 วันได้

ตัวอย่าง
     เช่นมีบุคคลหนึ่ง ถูกธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตซึ่งเป็นธนาคารต่างประเทศรายใหญ่ หักเงินจำนวน 100บาททุกๆเดือน เมื่อได้แจ้งไปว่าไม่เคยทำขอรายละเอียดด้วย ก็ได้รับ คำตอบว่าเป็นค่าเบี้ยประกันสินเชื่อ ตามที่ได้ตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิตต่างชาติรายใหญ่ หากไม่มียอดการใช้จ่ายก็จะไม่ถูกหักเงิน

 เขาไม่เคยตอบตกลงซื้อประกันดังกล่าว และไม่เคยเซ็นเอกสารใดๆ จากบริษัทประกัน รวมถึงไม่มีกรมธรรม์จากบริษัทประกันครบครองอยู่ด้วย ขอให้ธนาคารคืนเงินที่หักไป และได้ขอให้ยกเลิกการหักบัญชีของเขาด้วย ซึ่งทางธนาคารไม่ยอมคืนเงินที่หักให้ แต่ยอมยกเลิกการหักเงินงวดถัดไป

คนที่โทรมาจะบอกว่าเราเป็นลูกค้า VIP ได้รับสิทธิพิเศษ 100 ท่านแรก ที่ได้สิทธิในการซื้อประกันราคาถูกและบอกว่าจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง จากนั้นจะถามว่า คิดว่าข้อเสนอน่าสนใจไหมคะ
เขาซึ่งเพียงแค่ตอบคำถามคนที่โทร.มาเสนอขายทางโทรศัพท์ว่า"สนใจเท่านั้น" ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า ธนาคารเจ้าของบัตรซึ่งควรจะมีการสอบถามลูกค้าก่อนว่ายินยอมให้หักค่าเบี้ยประกันหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่บริษัทประกันแจ้งไปนั้นเป็นข้อเท็จจริง

และสิ่งที่ควรทำคือ


1.  ห้ามพูดคำว่า " ตกลง" หรือ " สนใจทำ" หรือ " ทำ " เด็ดขาด เพราะคำเหล่านี้จะเป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณได้ทำประกันไปจริงๆ แนะนำให้พูดว่า " ไม่เอา , ไม่ทำ , ไม่สนใจ, ไม่ต้องโทรมาแล้ว และวางสายทันทีไม่ต้องคุยอะไรอีก
2.  ห้ามพูดคำว่า "ให้ส่งเอกสารมาให้ดูก่อน" หรือ "ขอดูรายละเอียดก่อน" เพราะจะเข้างทางทันที คนที่โทรมาจะหลอกให้คุณตอบตกลงทำประกัน จากนั้นก็จะตัดเงินในบัตรเครดิต , บัตรเดบิต หรือให้โอนเงินให้ทันที วิธีปฏิบัติภายหลังที่ได้ทำประกันไปแล้ว

    การขายประกันทางโทรศัพท์หรือที่เรียกว่า"เทเลมาร์เก็ตติง" กำลังเป็นที่นิยมของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันภัย ส่วนใหญ่จะใช้ขายประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ ประกันสินเชื่อเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต

ถ้าตกลงยอมรับทำประกันไปแล้ว

     สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย โดยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  ซึ่งบริษัทจะต้องโทร.กลับหาผู้เอาประกันภัยอีกครั้ง ภายใน 7 วันนับจากวันที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อยืนยันความต้องการทำประกันภัยอีกครั้งหนึ่ง   และ  ผู้เสนอขายจะต้องขออนุญาตบันทึกการสนทนาในกรณีที่ประชาชนต้องการรับฟังการ เสนอขาย ซึ่งหากเกิดข้อโต้แย้งขึ้นภายหลังก็สามารถนำเทปที่บันทึกบทสนทนานั้นมา พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ 

     ผมว่าทางที่ดีปฎิเสธไปเลยดีกว่าครับ ดีกว่าจะมาเสียใจภายหลัง เพราะถ้าเราอยากทำประกันอะไรก็เดินตรงไปที่บริษัทนั้นเลยอีกอย่างเราก็จะมีเวลาศึกษากรมธรรม์ตัวนั้น ดีกว่ามาโดนหลอกให้ดีใจว่าเป็นผู้โชคดีอะไรแบบนี้มันกลายเป็นผู้โชคร้ายนะสิไม่ว่า...



7 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งโดนมาวันนี้เลยครับ ที่แสบจริงๆคือเขาสามารถตัดเงินเราจากบัตรเครดิตเราได้โดยที่เรายังไม่ได้ตอบตกลงอะไรเลย เป็นเพราะคำพูดที่ว่า"ให้ส่งเอกสารมาให้ดูก่อน" แต่สิ่งที่ส่งมาไม่ใช่เอกสารแต่เป็นกรมธรรม์ซะงั้น ทั้งๆที่เราไม่เคยติดต่อกับบริษัทนี้เลย สอบถามทางธนาคารเจ้าของบัตร เขาให้ข้อสันนิฐานว่า อาจจะเป็นไปได้ที่เซลล์ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลลูกค้าซึ่งกันและกันกับบริษัทที่เราได้ทำประกันไว้ เจริญเลยครับ นี่มันหมายถึงว่า ความปลอดภัยของการใช้บัตรเครดิตของเราเป็นศูนย์ไปเลย

    ตอบลบ
  2. ผมหลงทำประกันภั และก็ถูกหักเงินไปหลายเดือนแล้วกับบัตรเครดิตแต่มีความประสงค์จะยกเลิกต้องทำอย่างไรครับ เป็นประกันภัยที่โทรมาจากทางโทรศัพท์

    ตอบลบ
  3. อันนี้ผมโดนสดๆร้อนๆ ตอนแรกที่โทรมามันพูดว่า "ขอแค่สละเวลารับฟังซักนิด ไม่จำเป็นต้องตอบตกลงก็ได้" ผมก็คิดแค่ว่าให้พวกที่โทรมาได้ทำงานซักหน่อยเลยตกลงรับฟัง แต่ไม่คิดจะจ่ายค่าประกันอะไรให้อยู่แล้ว มันก็พูดนู่นนี่นั้นตามปกติของพวกประกัน ผมเลยถามไปด้วยว่า "ถ้าแบบนี้ก็คือประกันจะหักเงินในบัญชีเราไปทุกเดือนใช่ไหม?" คนในสายก็บอกว่า "ถ้าหากว่าลูกค้าไม่ได้อนุญาต ทางบริษัทจะไม่สามารถหักเงินในบัญชีไปได้เด็ดขาดครับ" เขาบอกแบบนี้ ผมก็เออออไป จนมาถึงตรงที่มันบอกให้ผมพูดคำว่า "ซื้อประกัน" แค่ 3 คำง่ายๆแล้วกรมธรรม์จะเสร็จสมบูรณ์ ผมก็เริ่มงง เลยถามย้ำ "อ้าว แล้วถ้าตอบตกลงไปประกันจะไม่หักเงินในบัญชีเราใช่ไหม?" มันก็ตอบแบบเดิมเลย "ถ้าลูกค้าไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถทำได้" พร้อมกับย้ำให้พูดคำว่า"ทำประกัน" ย้ำหลายรอบมาก จนผมตอบแบบส่งๆไปว่า "ทำประกัน" แล้วมันก็บอกการทำกรมธรรม์เสร็จสิ้น กล่าวขอบคุณตามระเบียบแล้วก็วางสายไป

    แล้วประเด็นมันอยู่ที่ว่า ประมาณสัปดาห์ต่อมามีข้อความขึ้นมาบอกว่า "(ชื่อบริษัท)ขอขอบคุณที่ชำระเบี้ยประกันภัย" พร้อมกับหักเงินผมไป 1400 บาทเศษ ผมก็งงเลย งี้ได้ไง? ผมเลยโทรไปด่าที่คอลเซ็นเตอร์พร้อมกับขอยกเลิกกรมธรรม์ทันที ระหว่งที่รอผมก็นั่งคิด แล้วก็มีประโยคนึงแว็บขึ้นมาในหัว "ทำประกัน" โอเคผมเสียโง่ให้มันไปเรียบร้อยแล้ว และน่าจะฟ้องไม่ได้ด้วย เพราะมันมีหลักฐานว่าเป็นเสียงสนทนาว่าผมได้ตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้ว

    ฝากเป็นอุทาหรณ์ ถึงใครก็ตามที่มาเห็นแล้วคุณไม่ได้อยากทำประกัน จงอย่าตอบ "ตกลง" หรือพูดอะไรก็ตามที่มันขอให้พูดอย่างเช่น "ทำประกัน" เพราะมันจะถือว่ากรมธรรม์จะเสร็จสมบูรณ์แล้วประกันจะสามารถเอาเงินในบัญชีของเราออกไปได้ จงอย่าหลงคารมณ์ไปกับไอ้พวกคอลเซ็นเตอร์เพราะมันจะทำทุกวิถีทงให้เราตอบ "ตกลง" ให้ได้ จงอย่าเสียโง่ให้มันแบบที่ผมโดน

    ปล.อันนี้ไม่ได้มาระบายหรืออะไรนะ แค่อยากเตือนผู้ที่เข้ามาอ่านเฉยๆ อย่าไปคล้อยตามพวกมันเด็ดขาดเลย ไม่งั้นเงินในบัญชีหายจะไปไม่รู้ตัว

    ตอบลบ
  4. วันนี้โดนไปเหมือนกันค่ะ. ให้ข้อมูลชื่อ วันเดือนปีเกิด. ที่อยุ่. เลขบัตรประชาชนแล้วมาถึงเลขบัญชี ธนาคาร รู้สึกแปลกๆ แต่คิดอยุ่ ตั้งแต่ให้สะกดชื่อเรา ทุกตัวอักษรเลยยกเลิกไม่ทำค่ะ แต่ก็ให้ข้อมูลไปเกือบหมด จะเป็นไรไหมคะ. กังวนใจจังเลยค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. วันนี้โดนเหมือนกันค่ะ ให้ข้อมูลชื่อ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ แต่ยังไม่ได้ให้เลขบัตรประจำตัวประชาชนกับเลขบัญชีไปเพราะรู้สึกเหมือนจะถูกขายประกันแบบนี้ถือว่าเราทำประกันไปหรือยังค่ะ

      ลบ
  5. โดนเหมือนกันบอกชื่อสกุลเลขบัตรที่อยุ่พร้อมสุดท้ายมันถามบัตรเครดิตบอกไม่มี แล้วมันตอบว่าถ้าไม่มีบัตรเครดิตจะทำไม่ได้ แบบนี้จะอันตรายมั้ยอ่า กังวลใจอยู่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พึ่งโดนมาเลยค่ะสดๆหมาดๆวันนี้เลย กังวลมาก
      เพราะบอกข้อมูลส่วนตัวไปเกือบหมด เหลือแค่ข้อมูลบัตรเดบิต ที่ไม่ได้บอก แบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยคะ กลัวไปหมด

      ลบ