ที่ผ่านมา คปภ. ได้รับการร้องเรียนทาง
สายด่วนประกันภัย 1186
จากประชาชนจำนวนมาก ซึ่งมีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้ซื้อประกันภัยและประกันชีวิตทางโทรศัพท์ (ทำให้คนอื่นว่าเป็นแมงสาบก็เพราะทำตัวกันแบบนี้แหละคนที่ตั้งใจทำงานก็พลอยเดือดร้อนไปด้วยกลายเป็นดูคำว่าประกันภัยคือหลอกลวงตกต่ำ..น่าสงสารนะครับกับคนตั้งใจทำงาน) มาต่อกันดีกว่า
“สิ่งที่น่าตกใจก็คือ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถเคลมค่าสินไหมได้ตามที่เสนอให้กับผู้ซื้อประกันทางโทรศัพท์ได้”
ผู้ที่ได้รับการเสนอขายประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์
จะเป็นผู้มีบัตรเครดิต ซึ่งได้ข้อมูลลูกค้าจากบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิต
แล้วจะมีกลุ่มคนที่พูดจาเหมือนเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ ไปเชิญชวนให้ซื้อประกัน
ที่นิยมมาก คือการขายประกันอุบัติเหตุ
ทั้งนี้บุคคลที่ถูกหลอกจะได้รับการหว่านล้อมว่าการซื้อประกันผ่านโทรศัพท์เนี่ยนะจะทำให้เบี้ยประกันจะต่ำ
เฉลี่ยเดือนละ 100ถึง200 บาทเท่านั้น
และได้รับวงเงินความคุ้มครองสูง 1ถึง5
แสนบาทเลยทีเดียว
การป้องกันภัยดังกล่าวให้ทำดังต่อไปนี้
เมื่อมีคนติดต่อมาขายประกันทางโทรศัพท์
ให้สอบถามชื่อ นามสกุล และเลขที่ ใบอนุญาตการเป็นนายหน้าขาย ประกัน
และถ้าตัดสินใจไปแล้วไม่พอใจสามารถยกเลิกได้ภายใน
15 วันได้
ตัวอย่าง
เช่นมีบุคคลหนึ่ง ถูกธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตซึ่งเป็นธนาคารต่างประเทศรายใหญ่
หักเงินจำนวน 100บาททุกๆเดือน
เมื่อได้แจ้งไปว่าไม่เคยทำขอรายละเอียดด้วย ก็ได้รับ
คำตอบว่าเป็นค่าเบี้ยประกันสินเชื่อ
ตามที่ได้ตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิตต่างชาติรายใหญ่
หากไม่มียอดการใช้จ่ายก็จะไม่ถูกหักเงิน
คนที่โทรมาจะบอกว่าเราเป็นลูกค้า VIP ได้รับสิทธิพิเศษ 100 ท่านแรก
ที่ได้สิทธิในการซื้อประกันราคาถูกและบอกว่าจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง
จากนั้นจะถามว่า คิดว่าข้อเสนอน่าสนใจไหมคะ
เขาซึ่งเพียงแค่ตอบคำถามคนที่โทร.มาเสนอขายทางโทรศัพท์ว่า"สนใจเท่านั้น"
ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า
ธนาคารเจ้าของบัตรซึ่งควรจะมีการสอบถามลูกค้าก่อนว่ายินยอมให้หักค่าเบี้ยประกันหรือไม่
เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่บริษัทประกันแจ้งไปนั้นเป็นข้อเท็จจริง
และสิ่งที่ควรทำคือ
1. ห้ามพูดคำว่า " ตกลง" หรือ " สนใจทำ" หรือ " ทำ " เด็ดขาด เพราะคำเหล่านี้จะเป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณได้ทำประกันไปจริงๆ แนะนำให้พูดว่า " ไม่เอา , ไม่ทำ , ไม่สนใจ, ไม่ต้องโทรมาแล้ว และวางสายทันทีไม่ต้องคุยอะไรอีก
2. ห้ามพูดคำว่า "ให้ส่งเอกสารมาให้ดูก่อน" หรือ "ขอดูรายละเอียดก่อน" เพราะจะเข้างทางทันที คนที่โทรมาจะหลอกให้คุณตอบตกลงทำประกัน จากนั้นก็จะตัดเงินในบัตรเครดิต , บัตรเดบิต หรือให้โอนเงินให้ทันที วิธีปฏิบัติภายหลังที่ได้ทำประกันไปแล้ว
การขายประกันทางโทรศัพท์หรือที่เรียกว่า"เทเลมาร์เก็ตติง" กำลังเป็นที่นิยมของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันภัย
ส่วนใหญ่จะใช้ขายประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ
ประกันสินเชื่อเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต
ถ้าตกลงยอมรับทำประกันไปแล้ว
สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย โดยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทจะต้องโทร.กลับหาผู้เอาประกันภัยอีกครั้ง ภายใน 7 วันนับจากวันที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อยืนยันความต้องการทำประกันภัยอีกครั้งหนึ่ง และ ผู้เสนอขายจะต้องขออนุญาตบันทึกการสนทนาในกรณีที่ประชาชนต้องการรับฟังการ เสนอขาย ซึ่งหากเกิดข้อโต้แย้งขึ้นภายหลังก็สามารถนำเทปที่บันทึกบทสนทนานั้นมา พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ถ้าตกลงยอมรับทำประกันไปแล้ว
สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย โดยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทจะต้องโทร.กลับหาผู้เอาประกันภัยอีกครั้ง ภายใน 7 วันนับจากวันที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อยืนยันความต้องการทำประกันภัยอีกครั้งหนึ่ง และ ผู้เสนอขายจะต้องขออนุญาตบันทึกการสนทนาในกรณีที่ประชาชนต้องการรับฟังการ เสนอขาย ซึ่งหากเกิดข้อโต้แย้งขึ้นภายหลังก็สามารถนำเทปที่บันทึกบทสนทนานั้นมา พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ผมว่าทางที่ดีปฎิเสธไปเลยดีกว่าครับ ดีกว่าจะมาเสียใจภายหลัง เพราะถ้าเราอยากทำประกันอะไรก็เดินตรงไปที่บริษัทนั้นเลยอีกอย่างเราก็จะมีเวลาศึกษากรมธรรม์ตัวนั้น ดีกว่ามาโดนหลอกให้ดีใจว่าเป็นผู้โชคดีอะไรแบบนี้มันกลายเป็นผู้โชคร้ายนะสิไม่ว่า...
เพิ่งโดนมาวันนี้เลยครับ ที่แสบจริงๆคือเขาสามารถตัดเงินเราจากบัตรเครดิตเราได้โดยที่เรายังไม่ได้ตอบตกลงอะไรเลย เป็นเพราะคำพูดที่ว่า"ให้ส่งเอกสารมาให้ดูก่อน" แต่สิ่งที่ส่งมาไม่ใช่เอกสารแต่เป็นกรมธรรม์ซะงั้น ทั้งๆที่เราไม่เคยติดต่อกับบริษัทนี้เลย สอบถามทางธนาคารเจ้าของบัตร เขาให้ข้อสันนิฐานว่า อาจจะเป็นไปได้ที่เซลล์ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลลูกค้าซึ่งกันและกันกับบริษัทที่เราได้ทำประกันไว้ เจริญเลยครับ นี่มันหมายถึงว่า ความปลอดภัยของการใช้บัตรเครดิตของเราเป็นศูนย์ไปเลย
ตอบลบผมหลงทำประกันภั และก็ถูกหักเงินไปหลายเดือนแล้วกับบัตรเครดิตแต่มีความประสงค์จะยกเลิกต้องทำอย่างไรครับ เป็นประกันภัยที่โทรมาจากทางโทรศัพท์
ตอบลบอันนี้ผมโดนสดๆร้อนๆ ตอนแรกที่โทรมามันพูดว่า "ขอแค่สละเวลารับฟังซักนิด ไม่จำเป็นต้องตอบตกลงก็ได้" ผมก็คิดแค่ว่าให้พวกที่โทรมาได้ทำงานซักหน่อยเลยตกลงรับฟัง แต่ไม่คิดจะจ่ายค่าประกันอะไรให้อยู่แล้ว มันก็พูดนู่นนี่นั้นตามปกติของพวกประกัน ผมเลยถามไปด้วยว่า "ถ้าแบบนี้ก็คือประกันจะหักเงินในบัญชีเราไปทุกเดือนใช่ไหม?" คนในสายก็บอกว่า "ถ้าหากว่าลูกค้าไม่ได้อนุญาต ทางบริษัทจะไม่สามารถหักเงินในบัญชีไปได้เด็ดขาดครับ" เขาบอกแบบนี้ ผมก็เออออไป จนมาถึงตรงที่มันบอกให้ผมพูดคำว่า "ซื้อประกัน" แค่ 3 คำง่ายๆแล้วกรมธรรม์จะเสร็จสมบูรณ์ ผมก็เริ่มงง เลยถามย้ำ "อ้าว แล้วถ้าตอบตกลงไปประกันจะไม่หักเงินในบัญชีเราใช่ไหม?" มันก็ตอบแบบเดิมเลย "ถ้าลูกค้าไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถทำได้" พร้อมกับย้ำให้พูดคำว่า"ทำประกัน" ย้ำหลายรอบมาก จนผมตอบแบบส่งๆไปว่า "ทำประกัน" แล้วมันก็บอกการทำกรมธรรม์เสร็จสิ้น กล่าวขอบคุณตามระเบียบแล้วก็วางสายไป
ตอบลบแล้วประเด็นมันอยู่ที่ว่า ประมาณสัปดาห์ต่อมามีข้อความขึ้นมาบอกว่า "(ชื่อบริษัท)ขอขอบคุณที่ชำระเบี้ยประกันภัย" พร้อมกับหักเงินผมไป 1400 บาทเศษ ผมก็งงเลย งี้ได้ไง? ผมเลยโทรไปด่าที่คอลเซ็นเตอร์พร้อมกับขอยกเลิกกรมธรรม์ทันที ระหว่งที่รอผมก็นั่งคิด แล้วก็มีประโยคนึงแว็บขึ้นมาในหัว "ทำประกัน" โอเคผมเสียโง่ให้มันไปเรียบร้อยแล้ว และน่าจะฟ้องไม่ได้ด้วย เพราะมันมีหลักฐานว่าเป็นเสียงสนทนาว่าผมได้ตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้ว
ฝากเป็นอุทาหรณ์ ถึงใครก็ตามที่มาเห็นแล้วคุณไม่ได้อยากทำประกัน จงอย่าตอบ "ตกลง" หรือพูดอะไรก็ตามที่มันขอให้พูดอย่างเช่น "ทำประกัน" เพราะมันจะถือว่ากรมธรรม์จะเสร็จสมบูรณ์แล้วประกันจะสามารถเอาเงินในบัญชีของเราออกไปได้ จงอย่าหลงคารมณ์ไปกับไอ้พวกคอลเซ็นเตอร์เพราะมันจะทำทุกวิถีทงให้เราตอบ "ตกลง" ให้ได้ จงอย่าเสียโง่ให้มันแบบที่ผมโดน
ปล.อันนี้ไม่ได้มาระบายหรืออะไรนะ แค่อยากเตือนผู้ที่เข้ามาอ่านเฉยๆ อย่าไปคล้อยตามพวกมันเด็ดขาดเลย ไม่งั้นเงินในบัญชีหายจะไปไม่รู้ตัว
วันนี้โดนไปเหมือนกันค่ะ. ให้ข้อมูลชื่อ วันเดือนปีเกิด. ที่อยุ่. เลขบัตรประชาชนแล้วมาถึงเลขบัญชี ธนาคาร รู้สึกแปลกๆ แต่คิดอยุ่ ตั้งแต่ให้สะกดชื่อเรา ทุกตัวอักษรเลยยกเลิกไม่ทำค่ะ แต่ก็ให้ข้อมูลไปเกือบหมด จะเป็นไรไหมคะ. กังวนใจจังเลยค่ะ
ตอบลบวันนี้โดนเหมือนกันค่ะ ให้ข้อมูลชื่อ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ แต่ยังไม่ได้ให้เลขบัตรประจำตัวประชาชนกับเลขบัญชีไปเพราะรู้สึกเหมือนจะถูกขายประกันแบบนี้ถือว่าเราทำประกันไปหรือยังค่ะ
ลบโดนเหมือนกันบอกชื่อสกุลเลขบัตรที่อยุ่พร้อมสุดท้ายมันถามบัตรเครดิตบอกไม่มี แล้วมันตอบว่าถ้าไม่มีบัตรเครดิตจะทำไม่ได้ แบบนี้จะอันตรายมั้ยอ่า กังวลใจอยู่
ตอบลบพึ่งโดนมาเลยค่ะสดๆหมาดๆวันนี้เลย กังวลมาก
ลบเพราะบอกข้อมูลส่วนตัวไปเกือบหมด เหลือแค่ข้อมูลบัตรเดบิต ที่ไม่ได้บอก แบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยคะ กลัวไปหมด