1. หากภายในรถของคุณมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับระบบก๊าซ NGV หรือ LPG เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บริษัททราบ เพราะหากเกิดเหตุและรถคันเอาประกันเป็นฝ่ายผิด เพราะว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงอาทำให้ไม่ตรงกับข้อสัญญาในกรมธรรม์ ความคุ้มครองที่จะได้รับจากการประกันอาจไม่สมบูรณ์
2. ค่า Excess หรือค่าใช้จ่ายในส่วนแรกนั้น กรณีไม่มีคู่กรณีจะจ่ายเพียง 1,000 บาท เท่านั้น แต่ถ้าคนอื่นขับไปทำให้เกิดความเสียหาย ต้องจ่าย 6,000 บาท (จ่ายให้บริษัทประกัน)
3. ในกรณีที่รถคุณเสียหายอย่างสิ้นเชิง โดยที่ไม่สามารถนำไปซ่อมกลับคืนได้ ทางบริษัทประกันภัยต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเต็มทุนประกัน และรถคันนั้นจะตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันภัย
4. ค่าอะไหล่ที่เกิดจากการซ่อม ผู้เอาประกันสามารถเรียกร้องเป็นเงินสดตามราคาที่บริษัืทได้ประเมินความเสียหายของรถไว้เพื่อนำไปจัดหาเองซื้อเปลี่ยนเองได้ ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าจะได้อะไหล่แท้หรือไม่
5. กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์นั้นจะมีผลทันทีเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ชำระเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัท (ซึ่งรวมไปถึงนายหน้าผู้เอาประกันด้วยเช่นกัน) ดังนั้นแม้ว่าการที่ซื้อผ่านนายหน้าถ้ามีใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง บริษัทรับประกันภัยก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบมิได้
6. หากคุณขับรถชนกับรถคู่กรณีที่ไม่มีประกันภัยและรถของท่านเป็น "ฝ่ายถูก" คุณควรตรวจสอบไปที่บริษัทประกันภัยว่าตามรายงานอุบัติเหตุนั้น รถของคุณเป็นฝ่ายถูกจริงหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์
8. การดูแลขนย้ายรถที่เสียหายเนื่องจากอุบัติเหตุเพื่อไปซ่อมที่อู่เป็นหน้าที่ของบริษัท แม้ว่าจะต้องย้ายรถไปโรงพักหรือที่ใดก็ตามตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนกระทั่งซ่อมเสร็จ บริษัทประกันภัยจะต้องรับภาระส่วนนี้ แต่ไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าซ่อม
9. ห้ามหนีเมื่อขับรถชนผู้อื่น ให้รีบช่วยเหลือ และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วยเผื่อต้องต่อสู้คดีความจะได้พิจารณาโทษจากหนักเป็นเบา ถ้าหนีมีโทษอาจจะถึงขั้นติดคุกทันที
10. ประกันภัยจะไม่คุ้มครองความเสียหายในขณะที่รถของคุณถูกลากจูง หรือขับรถขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่น้อยกว่า 150มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เว้นแต่ในกรณีที่ทำประกันประเภทระบุชื่อคนขับ และความเสียหายนั้นเกิดขึ้นในขณะที่คนระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น